การทำอีคอมเมิร์สให้ประสบความสำเร็จ นอกจากจะต้องมีเว็บดีไซน์ที่มีประสิทธิภาพ SEO ที่ดี มีการทำออนไลน์มาร์เก็ตติ้งหลากหลายรูปแบบแล้ว เว็บอีคอมเมิร์สของคุณก็ควรหาเจอได้ง่าย ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและออกแบบมาเพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้พวกเขาอยู่ในเว็บจนถึงขั้นตอนการจ่ายเงิน มันถึงจะเป็นเว็บอีคอมเมิร์สที่ดี และอีกส่วนประกอบสำคัญที่จะยกมาพูดในวันนี้ก็ต้องใส่ใจเป็นอันดับแรกๆ นั่นคือ ระบบ shopping cart ถ้าเราพัฒนาให้ใช้งานง่ายและผู้ใช้เข้าถึงได้ดี มันก็จะเป็นตัวที่ทำให้ลูกค้าอยู่จนถึงขั้นตอนการจ่ายเงินและทำกำไรได้อีกมาก และนี่ก็คือทริคเล็กๆน้อยๆ เพื่อทำให้ shopping cart ของคุณมีประสิทธิภาพ
ไม่ต้องให้ลูกค้าทำการลงทะเบียนเพื่อที่จะเช็กเอาท์ได้
ไม่มีอะไรทำให้หงุดหงิดใจมากไปกว่าการถูกบังคับให้สร้าง account เพื่อที่จะซื้อสินค้าออนไลน์อีกแล้ว การช้อปปิ้งออนไลน์ควรจะมีระบบที่ง่าย แน่นอนว่าการมี account จะทำให้การซื้อในครั้งหน้าสะดวกสบายขึ้น แต่ในตอนนี้มันก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลอะไรขึ้น ซึ่งแทนที่จะทำอย่างนี้ ลองให้ผู้ซื้อสร้าง account หลังจากทำการเช็กเอาท์เสร็จน่าจะดีกว่า
ให้ทางเลือกในการจ่ายเงินและระบบการขนส่งแก่ลูกค้า
การช้อปปิ้งออนไลน์ควรง่ายและสะดวกสบายให้มากที่สุด ด้วยการนำเสนอฟอร์มที่หลากหลายในการจ่ายเงิน และการให้ทางเลือกลูกค้าในการขนส่ง ว่าแต่ละคนสะดวกแบบไหน
พยายามทำให้เสร็จในหนึ่งเพจ
ถ้าสามารถเป็นไปได้ ควรตั้งลิมิตให้ขั้นตอนการเช็กเอาท์อยู่ในเพียงแค่เพจเดียวเท่านั้น ถ้าคุณต้องขยายออกไปอีก 2-3 เพจ ก็ควรโชว์ process bar เพื่อที่จะโชว์ให้ลูกค้าเห็นว่าอีกเยอะแค่ไหนที่พวกเขาต้องกรอกเพื่อเช็กเอาท์
ให้ผู้ซื้อสามารถอีเมลหรือปริ้น shopping carts ของพวกเขาได้
บางครั้งผู้ซื้อที่ตั้งใจมาซื้อสินค้าบางอย่างแต่กลับต้องทิ้งตะกร้าไปเพราะอาจต้องไปขออนุญาตจากเจ้านาย พ่อแม่ หรือคนอื่นๆก่อน ซึ่งการให้พวกเขาสามารถปริ้นหรืออีเมล shopping carts ของพวกเขาได้ ก็จะเป็นโอกาสที่พวกเขาจะกลับมาหาคุณได้อีกครั้งเพื่อเช็กเอาท์
ทำเว็บฯ และตะกร้าช้อปปิ้งของคุณให้เป็น mobile-friendly
อัตราการช้อปปิ้งจากโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการที่เราสามารถโหลดสินค้ามาดูได้ง่ายๆ และสามารถท่องเว็บฯนั้นๆได้จากโทรศัพท์มือถืออย่างราบลื่น การมีเว็บดีไซน์ที่ตอบโจทย์จะทำให้แต่ละเพจของเว็บฯเราสามารถเรนเดอร์ออกมาเพื่อให้เข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์ ซึ่งก็เป็น solution ที่ง่ายและทรงประสิทธิภาพมากที่สุด
แสดงโค้ดโปรโมชั่นบนเว็บฯของคุณ
โชว์ให้ลูกค้าเห็นว่าคุณต้องการให้เขาได้รับดีลที่ดีที่สุดจากคุณ โดยการแสดงให้เห็นถึง special offers และ โค้ดส่วนลดหรือโปรโมชั่นไว้ที่หน้าเว็บฯ ของคุณ และคุณยังสามารถใช้ระบบเตือนลูกค้าด้วยเมื่อใกล้ถึงเวลาที่โค้ดเหล่านั้นจะหมดอายุ
ใส่เรตติ้งของสินค้าและ testimonials
หนึ่งในวิธีที่ดีในการโชว์ให้ลูกค้าได้เห็นว่าสินค้าของคุณคุ้มค่าที่จะซื้อก็คือการโชว์เรตติ้งดีๆ และ testimonials ไว้ในคำอธิบายสินค้า เพื่อที่จะจูงใจบางคนที่กำลังลังเลอยู่จะได้ลองแอดมันเข้าไปในตะกร้าช้อปปิ้งหลังจากที่จะเห็นเรตติ้งดีๆ และรีวิวที่น่าสนใจ
ใส่ปุ่มเช็กเอาท์ไว้ที่ด้านบนและด้านล่างของจอ
โดยทั่วไปผู้ซื้อมักจะทิ้งตะกร้าช้อปปิ้งไปได้อย่างง่ายๆ ถ้าพวกเขาไม่เห็นปุ่มเช็กเอาท์อยู่ตรงนั้นทันที ดังนั้น shopping cart ของคุณจึงควรทำให้ง่ายให้มากที่สุดสำหรับผู้ซื้อในการที่จะเช็กเอาท์ จึงควรวางปุ่มเช็กเอาท์ไว้ที่ทั้งด้านบนและด้านล่างของเพจ และควรมีการเทสดูถึงดีไซน์และสีที่ควรใช้มากที่สุดสำหรับปุ่มนั้น
ให้ลูกค้าสามารถเซฟตะกร้าช้อปปิ้งของเขาเองเป็น wish list ได้
แน่นอนว่าการที่ผู้ซื้อได้ทำการซื้อโดยทันทีนั้นมันดีอยู่แล้ว แต่บางครั้งผู้ซื้อก็อยากที่จะรู้ว่าสินค้าต่างๆนั้นมีราคาเท่าไร ดังนั้น ควรอนุญาตให้พวกเขาเซฟตะกร้าช้อปปิ้งของเขาเป็น wish list ไว้ก่อนได้ เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้กลับมาและทำการซื้อให้สำเร็จในภายหลัง
ให้ผู้ซื้อสามารถแก้ไขรายการสินค้าในตะกร้าได้เมื่อต้องการ
ควรให้โอกาสผู้ซื้อได้เปลี่ยนจำนวน หรือลบสินค้าบางรายการออกไปจนกว่าจะถึงขั้นตอนสุดท้ายในการเช็กเอาท์ เพราะถ้าคุณไปบังคับให้พวกเขากดซื้อทั้งหมดหรือไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลวงสินค้าใดๆ เลย อาจทำให้เป็นการยิ่งทำให้พวกเขาทิ้งตะกร้าช้อปปิ้งไปทั้งหมดเลย
แนะนำสินค้าใกล้เคียง
วิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มยอดขายก็คือการแนะนำสินค้าใกล้เคียงในระหว่างขั้นตอนของการเช็กเอาท์ ยกตัวอย่าง ถ้าคุณมีสินค้าที่ทำงานได้ดีขึ้นถ้าบวกกับสินค้าอีกชิ้นหนึ่ง ก็ควรทำการลิงค์ไปหาสินค้าชิ้นนั้นๆด้วย เพราะบางทีลูกค้าอาจไม่ได้นึกถึงว่าพวกเขาก็ต้องการมันเช่นกันจนกว่าคุณจะแนะนำให้เขาเห็น และมันก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความรำคาญหรือไม่พอใจ เพราะนี่เป็นเพียงแค่การแนะนำแบบสบายๆ
เสนออินเทนซิฟ
ในจุดที่พวกเขาเกือบจะถึงขั้นตอนการเช็กเอาท์แล้ว ผู้ซื้อบางคนอาจเริ่มมีความคิดแทรกเข้ามาว่า พวกเขาจะสามารถไปหาดีลที่ดีกว่านี้ได้จากร้านอื่นไหม? เขาต้องจ่ายค่าส่งเยอะเกินไปไหม? ดังนั้นคุณควรช่วยให้พวกเขากลับมาที่ความคิดเดิมได้โดยการนำเสนอดีลดีๆบางอย่างให้ เช่น ให้ฟรีค่าขนส่ง ใส่โค้ดโปรโมชั่น หรือส่วนลดพิเศษให้แก่พวกเขา ซึ่งส่วนใหญ่การให้ดีลเล็กๆน้อยๆ เหล่านี้ก็ทำให้เกิดการซื้อขายขึ้นแทนที่จะทิ้งตะกร้าไป
Credit: http://www.imediaconnection.com/article/145762/best-practices-for-your-e-commerce-shopping-cart, www.freepik.com
Ketshopweb | เว็บสำเร็จรูปอย่างง่ายที่ใครๆก็ทำได้
เรายินดีให้คำปรึกษาการทำเว็บไซต์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ติดต่อมาที่ 094-436-2002 , email : sales@ketshopweb.com
