ทำไมต้องมีหน้าเว็บไซต์ ดีกว่า Facebook fanpage อย่างไร?

0
4776

หากคุณหันมาทำธุรกิจออนไลน์ แน่นอนว่าการมีหน้าร้านออนไลน์เป็นเรื่องที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น Facebook Fanpage, IG Account หรือ Website ต่างๆ การเปิดหน้าร้านออนไลน์ด้วย Facebook Fanpage หรือ IG Account เป็นเรื่องที่ง่ายมาก และไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย แล้วทำไมต้องไปเปิดหน้าร้านที่เป็น Website ที่ทั้งยุ่งยากและเสียค่าใช้จ่ายด้วยล่ะ?? ลองมาดูเหตุผลที่สนับสนุนให้ธุรกิจออนไลน์ต่างๆหันมาเปิด Website เป็นหน้าร้านออนไลน์กันด้วยดีกว่า

1. Website ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ

               เพราะ Facebook Fanpage นั้น ไม่ว่าใครที่มีบัญชีผู้ใช้งาน ก็สามารถสร้างเพจขึ้นมาได้ จะสร้างกี่เพจ หรือจะตั้งชื่อว่าอะไรก็ได้ แต่ website นั้น เจ้าของเว็บต้องทำการจดทะเบียนกับผู้ให้บริการ Hosting หรือ Platformสร้างเว็บไซต์ ซึ่งต้องมี ชื่อ,ที่อยู่ที่สามารถติดตามได้ จึงทำให้มีความน่าเชื่อถือสูงกว่า Facebook Fanpage และข้อมูลที่แสดงในเว็บไซต์จะทำออกมาเป็นทางการได้มากกว่าการใช้ Facebook.

2. ข้อจำกัดในการแสดงผล

               สำหรับบริษัทที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ หรือ สินค้า ไม่ควรจะใช้แค่ช่องทางบน Facebook Fanpage  ประกาศขายสินค้าเพียงอย่างเดียว เพราะรายการที่ถูกเพิ่มลงใน POSTก่อนหน้า จะหล่นลงไปอยู่ข้างใต้ POST ใหม่เรื่อยๆ หากลูกค้าต้องการดูสินค้า หรือ เนื้อหาที่ถูกเพิ่มไว้นานแล้ว ต้องเสียเวลาในการไล่หาใน Feed Post Timeline เพื่อหาสินค้าหรือเนื้อหานั้นๆ ดังนั้น ถ้าหากบริษัทมี Website จะทำให้สามารถจัดหมวดหมู่สินค้าเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหามากยิ่งขึ้น การมี Facebook Fanpage จึงเหมาะสมสำหรับการเอาไว้อัพเดตสินค้าใหม่ๆมากกว่า อีกประเด่นที่สำคัญมากๆคือ Website สามารถให้คุณ จัดการ Layout หน้าตา ในการจัด Promotion Banner หรือลูกเล่น Call2Action ได้เองอย่างอิสระ ในขณะที่ Facebook จะสามารถทำได้ตาม Pattern ที่ Post สามารถของ facebook ทำได้เท่านั้น

– ตัวอย่างการแสดงผลบนหน้าเว็บไซต์ที่มีการจัดหมวดหมู่ให้ค้นหาง่าย

3. สะดวกกว่าในการทำเป็นร้านค้าออนไลน์ เชิงระยะยาว

               เนื่องจาก Facebook ทำได้เพียงโชว์สินค้าและราคาเท่านั้น ไม่มีส่วนเสริมในการจ่ายเงินใดๆ ทำได้เพียงโพสต์เลขบัญชีเพื่อให้ลูกค้าโอนมา หรือมากสุดคือใช้บัตรเครดิต ซึ่งต่างกับ Website ที่สามารถกำหนดระบบตะกร้าสินค้า ในการเล่น Promotion Condition ได้ยืดหยุ่นมากกว่า การจ่ายด้วยบัตรเครดิต หรือ พร้อมเพย์(Promtpay) รวมไปถึงการเชื่อมกับระบบค่ายขนส่งต่างๆที่สามารถให้ผู้ซื้อเลือก เรทราคาที่ต้องการได้เอง
แนะนอนว่าการขายของ คงไม่ได้ขายกันตรงๆอย่างเดียว เพราะเรามีการเล่น Member Point, หรือ Promotion ช่วงวันที่ 8 เดือน 8 ลดพิเศษตามช่วงเวลา ได้อย่างอิสระ มากกว่า

4. ดึงดูดผู้คนที่ไม่ได้เล่น facebook ให้มาเจอกับบริษัท

               หากท่านมี website เป็นของตัวเอง ตัว website จะทำหน้าที่ดึงดูดผู้คนที่ไม่ได้เล่นแต่ Facebook ให้มาเจอกับเว็บของท่าน หรือที่เรียกว่า organic traffic คือคนที่ค้นหาข้อมูลที่ต้องการในหน้า google แล้วมาเจอกับ website ของท่าน แล้วเกิดความสนใจ ทำให้ติดตาม

5. Website คือบ้าน ส่วน Facebook เปรียบเสมือนการไปเช่าอยู่

               การมี website เปรียบเสมือนท่านมีบ้านเป็นของตัวเอง จะสามารถทำยังไงกับบ้านของตัวเองก็ได้ ไม่ว่าจะปรับแต่งหน้าตา เพิ่มหรือลดข้อมูล ในขณะที่ Facebook ปรับแต่งอะไรแทบไม่ได้ หากทาง Facebook มีการเปลี่ยนกฏ ก็พาลลำบากไปหมด ตัวอย่างเช่น Text Overlay ที่เดิมไม่มีเเล้วเปลียนว่าห้ามเกิน 20% แต่ล่าสุดในปี 2020 ดันกลับบอกว่ายอมให้ยิง ads โดยไม่ใช่หลัก Text Overlay 20% เเล้ว

6. การได้เปรียบในเรื่องการแสดงผลของ Google

               Website จะได้เปรียบในเรื่องการจัดอันดับแสดงผลของ Google ได้ดีกว่าใน Facebook ทำให้เมื่อลูกค้าต้องการหาสินค้าผ่าน Google ในด้านของ Website จะนำเสนอผลการค้นหาได้ดีกว่าในแง่ของการค้นหาอย่างเจาะจง ยกตัวอย่างเช่น เวลาคุณสนใจหรือชอบรถ คุณอาจจะเเค่ Search รุป หรือเนื้อหาเกี่ยวกับรถยนตร์ใน facebook เพื่อติดต่าม สิ่งที่สนใจ เเต่ว่า หากไฟหน้ารถคุณแตก เเล้วคุณต้องการหาอะไหล่ไฟหน้ารถ เพื่อทำการซื้อ คุณคงไม่หาใน facebook แน่ๆ เพราะคุณต้องการจะซื้อมาใช้งานเลย ซึ่งก็ไม่พ้นการหาใน Google Search

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ยังไงเเล้ว website ก็ยังมีบทบาทสำคัญในการรองรับการค้นหาสินค้าของเรา เราคงไม่อยากพลาดให้เจอสินค้าคู่แข่งโดยไม่เจอเราดีกว่าไหมใช่ไหมครับ? อีกมุมมองนะครับ กรณีคุณติดตาม Facebook Group เกี่ยวกับรถ แปลว่าคุณสนใจ ซึ่ง facebook ก็จะนำเสนอ Media เรื่องนั้นๆมาให้ก็จริง เเต่อย่าลืมว่า สนใจเป็นความชื่นชอบ ไม่ได้แปลว่าตั้งใจจะซื้อนะครับ อาจเป็นลักษณะเเค่ Windows Shopping หรือเปล่า?

7. ความแน่นอน

               อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า Website เปรียบเสมือนบ้าน ส่วน Facebook Fanpage เปรียบเสมือนการไปเช่าอยู่ ความแน่นอนของการมี Website จึงมีมากกว่า เพราะ Facebook Fanpage อาจมีการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติบางอย่างที่อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของท่านก็เป็นได้ แต่ website เป็นบ้านของเราเอง คนที่มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงคือเจ้าของบ้านนั่นเอง


หากมีคำถามอยากจะปรึกษากับเรา ไม่ว่าเรื่อง Ecommerce, Website, Marketing Online
สามารถ Add Friends  @line กับเราได้โดยscan  QR Code ด้านล้างนี้ได้เลยครับ


https://www.ketshopweb.com/ทดลองใช้ฟรี


Ketshopweb | เว็บสำเร็จรูปอย่างง่ายที่ใครๆก็ทำได้

www.ketshopweb.com

เรายินดีให้คำปรึกษาการทำเว็บไซต์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

ติดต่อมาที่ 02-038-5588 , email : sales@ketshopweb.com