Amazon พูดชื่อนี้ใครๆต่างก็ร้องอ๋อ…เพราะเขาเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลกมานาน และใครจะคิดว่า Amazon อยู่คู่มากับหลายยุคตั้งแต่ 20 กว่าปีมาแล้วตั้งแต่ที่เขาได้เริ่มต้นเป็นแค่ร้านขายหนังสือออนไลน์ ในตอนนี้ได้กลับกลายเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดบนอินเทอร์เน็ตแล้ว! และยังเปิดโอกาสดีๆ ให้แก่บุคคลที่สามในการทำมาหากินในนี้ได้ด้วย
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ความฮิตนี้ได้เกิดขึ้นกับ Amazon มาอย่างต่อเนื่องทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย จากการสำรวจประเภท web retailer นั้นพบว่าผู้ขายสามารถทำยอดขายได้กว่า 4 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับอีเบย์ มีการใช้จ่ายสูงถึง $88,000 ต่อนาทีใน Amazon จากทั่วโลก เห็นทีเราจะต้องมาขโมยทิปส์จากยักษ์ใหญ่ด้านการขายออนไลน์อย่าง Amazon เสียหน่อยแล้ว 🙂
1. ทำการรีวิว
พลังของการรีวิวนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิดมาก 88% ของลูกค้านั้นพูดเลยว่าพวกเขาเชื่อการรีวิวออนไลน์มากเท่าๆกับการแนะนำจากคนใกล้เคียงของพวกเขาเองด้วยซ้ำ
ลองคิดดูว่า ถ้าคุณมีรีวิวประกอบกับสื่อ อาจเป็นการรีวิวแบบวิดีโอ หรือรีวิวด้วยภาพสินค้าก็จะสามารถทำให้ดึงดูดคนได้มากกว่าอีกเยอะ ถ้าคุณรู้จักใครที่ชื่นชอบสินค้าของคุณอยู่ ให้รีบไปหาเขาทันที หรือไม่วิธีง่ายๆ คือการหากลุ่มเป้าหมายของคุณจากที่สาธารณะ เช่น เข้าหานักศึกษามหาวิทยาลัยเพื่อให้พวกเขาช่วยคุณทำโปรเจคนี้ ซึ่งอาจลงทุนเป็นค่าขนมเล็กๆน้อยๆ และพวกเขาเองก็ได้ใช้สินค้าที่ดีมีประโยชน์จากคุณด้วย
เกือบ 90% ของผู้ซื้อสินค้าจาก Amazon นั้นก็ไม่ค่อยลงฟีดแบคเท่าไร ดังนั้นการใช้โปรแกรมเสริมเพื่อช่วยเพิ่มการลงฟีดแบคจากลูกค้านั้นก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ควรใส่เข้าไปเพิ่ม อีกทั้งคุณยังสามารถตรวจดูคอมเมนท์ที่ไร้ประโยชน์ หรือคอมเมนท์นอกเรื่องที่คอยมาก่อกวนในโลกออนไลน์อีกด้วย ซึ่งตรงนี้ Amazon ก็ได้ให้ความสำคัญกับการค้าขายของผู้ขายด้วย และมีระดับที่จะเป็นตัวกำหนดสถานะของคุณให้ผู้ซื้อได้ตรวจก่อนซื้อ
ถ้าคุณเป็นผู้ขายที่ขายสินค้าอยู่ใน Amazon ก็อาจให้ผู้ซื้อ (นอก Amazon) มาคอมเมนท์ให้ฟีดแบคแก่สินค้าของคุณบ้าง เพื่อที่คุณจะได้นำคำติชมเหล่านั้นไปพัฒนาสินค้าต่อ โดยที่ไม่ต้องโดนคอมเมนท์ใน Amazon กับการที่ถูกตกอันดับลงมาด้วย นี่เป็นทิปส์หนึ่งในการเทสสินค้าเวลาคุณออกสินค้าใหม่ๆ มา
2. ให้ใช้ฟรีๆ
เห็นหัวข้ออย่างนี้แล้วอย่าเพิ่งหันหน้าหนี นี่เป็นทิปส์ที่อาจฟังดูขาดทุน แต่ก็แค่ในระยะสั้นเท่านั้น คุณจะได้เห็นผลประโยชน์ในระยะยาวต่างหาก… อย่างที่ได้กล่าวไปในข้อที่แล้ว การรีวิวเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สินค้าของคุณเป็นที่สะดุดตา ซึ่งในการที่จะกระตุ้นให้ผู้ซื้อทิ้งฟีดแบคไว้นั้น ลองให้ข้อเสนอดีๆ กับเขาก่อนสิ… คุณอาจให้เขาได้ใช้สินค้าไปก่อนแบบฟรีๆ หรือให้ส่วนลดเป็นเปอร์เซ็น เพื่อที่จะแลกกับการรีวิวสินค้า นี่เป็นการสร้างรีวิวให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้นต่อคนอื่นๆ และกับผู้ที่ทดลองใช้ ก็จะนึกถึงคุณเมื่อต้องการสินค้าประเภทนี้
3. ปรับปรุง SEO ของคุณ
ก็เหมือนกับเรตติ้งและการตั้งราคา Amazon เองก็ต้องใช้คีย์เวิร์ดในแต่ละหัวข้อของสินค้าเพื่อที่จะจัดอันดับเช่นกัน ซึ่งการตั้งหัวข้อของสินค้าคุณจะถูกจำกัดแค่ 500 ตัวอักษร ที่คุณต้องใส่คีย์เวิร์ดไปให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถ เพื่อให้สินค้าของคุณได้ถูกมองเห็น ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ รายละเอียดสินค้า product line วัสดุ สี ขนาด จำนวน เป็นต้น
4. ส่วนลด!
คล้ายๆ กับข้อสองที่ได้กล่าวไป การให้ส่วนลดกับลูกค้าเป็นวิธีที่ดีในการทำให้เกิดแรงกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจคุณ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์ของคุณได้
ดีลประจำวันในแต่ละวัน หรือจะเป็นส่วนลดในโอกาสพิเศษ ล้วนแล้วแต่ทำให้คุณสามารถขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในหมวดสินค้าใกล้เคียงได้ ถ้าคุณเป็นผู้ขายใน Amazon ก็จะเป็นโอกาสที่ดีในการเป็นใบเบิกทางให้สินค้าของคุณสามารถไปโผล่อยู่ในหมวด Hot Deals หรือ New & Noteworthy ที่มีทราฟฟิกมหาศาลได้ ในเว็บไซต์ของคุณเองก็ควรมีหมวดประเภทนี้อยู่เช่นกัน เช่น Hot Deals เพราะจะเป็นการจุดประกายให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าที่เป็นตัวชูโรงของแบรนด์คุณและถ้ามันโดนใจ ก็จะทำให้พวกเขาเข้าสู่กระบวนการซื้อได้ไม่ยาก
Credit: http://ecommerce-platforms.com/ecommerce-selling-advice/7-tips-for-amazon-sellers-to-increase-sales, https://www.pexels.com
Ketshopweb | เว็บสำเร็จรูปอย่างง่ายที่ใครๆก็ทำได้
เรายินดีให้คำปรึกษาการทำเว็บไซต์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ติดต่อมาที่ 094-436-2002 , email : sales@ketshopweb.com