อินเตอร์เน็ตหรือแม้แต่สื่ออนไลน์เองในตอนนี้มีมากมายหลากหลายช่องทางให้เลือกใช้ ทั้งผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการต่างก็มีทางเลือกมากมายในการใช้งานสื่อออนไลน์และแพลตฟอร์มต่างๆ เนื่องจากความหลากหลายนี้ผู้ทำการตลาดจึงต้องเพิ่มการโฟกัสให้กว้างขึ้นและมากขึ้น เพื่อที่จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยลง อย่างหัวข้อที่เราจะบอกคุณต่อไปนี้
1. กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายคือลูกค้า ลูกค้าคือกลุ่มเป้าหมาย เพราะแบบนั้นกลุ่มเป้าหมายจึงสำคัญและคุณไม่ควรที่จะละเลยโดยเด็ดขาด คุณต้องหมั่นศึกษาและเข้าหากลุ่มเป้าหมายให้มาก เพื่อที่จะรู้ให้ได้ว่ากลุ่มลูกค้าของคุณชอบอะไร เป็นกลุ่มคนประเภทไหน มีความสนใจอะไร คุณจะทำงานง่ายขึ้นหากรู้จักพวกเขาดีพอ
2.การวางแผน
การทำงานที่ดีควรมีแผนที่ดี คุณควรศึกษาคู่แข่ง ดูจุดแข็ง-จุดอ่อนแล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อที่จะเดินเกมให้ได้แม่นยำและพลาดน้อยที่สุด ทุกการทำงานของคุณมีค่าใช้จ่ายและความเสี่ยง การวางแผนจะทำให้เราต้องสูญเสียน้อยลง
3.ใส่ใจสินค้าของตนเอง
ดูแลมาตรฐานและคอยพัฒนาสินค้าของตัวเองอยู่เสมอ เนื่องจากไม่ได้มีเราเพียงคนเดียวในตลาด การพัฒนาสินค้าเพื่อให้ได้เป็นแนวหน้าของวงการก็เป็นเรื่องที่คุณควรใส่ใจ
4.ดูความเสี่ยง
คุณอย่าไปหวังกับการทุ่มทุนทำโฆษณาตู้มเดียวแล้วคาดหวังว่ามันจะบูมไปทั่วบ้านทั่วเมือง เพราะสิ่งเหล่านี้มีความเสี่ยงสูง คุณควรดูถึงความเป็นไปได้ในการทำตลาดแต่ละแบบ ไม่ว่าจะเป็น Ad ทำโฆษณา หรือ SEO สิ่งเหล่านี้มีความเสี่ยงละล้วนใช้ระยะเวลาในการวัดผล มันน่าจะดีกว่าถ้าคุณจะโฟกัสไปทีละจุดและทำทุกอย่างควบคู่กันไปอย่างพอดิบพอดี
5.งบประมาณ
คุณต้องจัดสรรให้ดี การทำตลาดออนไลน์บางครั้งก็ไม่ได้ใช้งบมากเท่าที่คิด พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่มีความเสี่ยงและไม่คุ้มกับการลงทุน เน้นไปในทางที่จะช่วยเพิ่มยอดขายได้ดีจริงๆ จะดีกว่า
6.ความหลากหลายของ Social Media
ในปัจจุบันมี Social มากมายที่เราสามารถเลือกใช้ได้ แต่สำหรับแบรนด์ควรเลือกใช้จาก Socail media ที่มีผู้ใช้มากที่สุดเป็นหลักจะดีกว่า ถ้าไม่อย่างนั้นนอกจากจะเสียเวลาแล้วยังเสียงบประมานโดยสิ้นเปลืองอีกด้วย
7.คอนเทนต์
คอนเทนต์ที่จะประสบความสำเร็จคือคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ส่วนน่าสนใจยังไงเรื่องนั้นคุณต้องหาเอง (โดยการทำข้อบนๆ ควบคู่ไปด้วย) เพราะหากคอนเทนต์ของคุณไม่น่าสนใจ ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย คอนเทนต์นั้นๆ ของคุณก็จะเสียเปล่า แต่ถ้าคุณโชคดี บางทีจากคนที่ตอนแรกเป็นเพียงผู้เยี่ยมชมอาจจะกลายมาเป็นลูกค้าของคุณก็ได้
8.สมาร์ทโฟน
ปัจจุบันมี Device มากมายที่สามารถใช่ท่องอินเตอร์เน็ตได้แล้ว และในปีนี้มีจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนสูงกว่าผู้ใช้เดกส์ท็อปแล้ว เพราะฉะนั้นผู้ทำแบรนด์จึงไม่ควรละเลย Device เหล่านี้เป็นอันขาด เพราะผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็ปเล็ตดดนส่วนใหญ่จะใช้เพื่อค้นหา รีวิว การเดินทาง รายละเอียดสินค้า เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องทำเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นเพื่อรองรับผู้ใช้เหล่านี้ด้วย
9.การวัดผล
เมื่อมีการลงทุนหรือเพิ่งเปิดตัวสินค้าออกไป คุณก็ควรจะมีการวัดผล ROI เพื่อหาความคุ้มค่าของการลงทุนที่คุณเสียไป เพื่อที่คุณจะได้นำมาวิเคราะห์และปรับใช้ให้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในอนาคต หรือหากผลตอบรับไม่ดีเท่าที่ลงทุนไปก็จะได้ปรับกลยุทธ์ได้ทัน
10.การใช้ SEO
SEO คือ Search Engine Optimization เป็นอีกอุปกรณ์หนึ่งที่จะทำให้คนอื่นๆ เห็นสินค้าของคุณมากขึ้น ซึ่งการใช้ SEO นี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ต้องระวังเรื่องการใช้คีย์เวิร์ด คุณต้องคอยตามข่าวกับทาง Google ต้องคอยอัพเดต SEO บนเว็บของคุณให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอด้วย
11.การใช้สื่ออนไลน์และออฟไลน์ไปพร้อมๆ กัน
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะอยู่กับดิจิตัลตลอดเวลา ตราบใดที่ยังมีบิลบอร์ดอยู่ข้างถนน หรือป้ายโฆษณาตามที่ต่างๆ คุณต้องผสมผสานทั้งดิจิตอลและออฟไลน์เข้าด้วยกัน อย่างเช่น ใส่ชื่อเฟซบุ๊คของแบรนด์ของคุณเอาไว้บนป้ายโฆษณา หรือแม้แต่ QR Code ของไลน์ไอดีของแบรนด์ของคุณ การทำแบบนี้จะทำให้คนเข้าถึงสินค้าของคุณได้มากยิ่งขึ้น
cr. marketing oops
Ketshopweb | เว็บสำเร็จรูปอย่างง่ายที่ใครๆก็ทำได้
เรายินดีให้คำปรึกษาการทำเว็บไซต์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ติดต่อมาที่ 094-436-2002 , email : sales@ketshopweb.com
