ตอนนี้ใครๆ ต่างก็หันไปช้อปปิ้งออนไลน์ ด้วยอัตราที่มากขึ้นกว่าแต่ก่อนสูงมาก จึงทำให้มีร้านค้ามากมายเกิดขึ้นเป็นคู่แข่งกัน ซึ่งเจ้าที่จะสามารถอยู่รอดได้นั้น ก็ต้องเรียนรู้ที่จะประสบความสำเร็จให้ได้โดยสร้าง organic engagement จากในโซเชียลมีเดีย
ถึงอย่างไรก็ตาม การสร้าง organic traffic จากการเสิร์ช หรือ conversions จากการลงทุนไปกับการโฆษณาก็ยังเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการสร้างธุรกิจอยู่ แต่เราจะมานำเสนอวิธีที่ประหยัดและไม่ต้องใช้อะไรเลยนอกจากเวลาของคุณจากการสร้าง organic engagement ในโซเชียลมีเดีย และนี่ก็คือกลยุทธ์ที่จะสามารถช่วยบูส traffic และยอดขายให้สูงขึ้นได้จากโซเชียลมีเดีย
1. สร้างคอนเทนท์เจ๋งๆ
ถ้าตอนนี้สิ่งเดียวที่คุณกำลังทำอยู่คือการโปรโมทสินค้า ผู้คนก็จะเริ่มทยอยออกไปจากเพจและปฏิเสธโพสต์ของคุณไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าโพสต์ของคุณยิ่งมี engagement ดรอปลงมาเท่าไร follower ก็จะได้เห็นโพสต์ใหม่ของคุณน้อยลงตามไปด้วย เพราะ Facebook, Twitter, และ Pinterest ต่างก็ต้องการดิสเพลย์คอนเทนท์ที่น่าสนใจมากที่สุด ที่มีคนชอบดูมากที่สุด เพื่อที่จะทำให้ผู้ใช้ engaged
ลองหาทางสร้างคอนเทนท์เพื่อจุดประสงค์อื่นๆดูบ้าง เราไม่ได้หมายถึงว่าให้ repost บทความเก่าๆ หรือแชร์อะไรเจ๋งๆ ที่คุณเจอในเว็บฯอื่น แต่ให้หาหัวข้อที่น่าสนใจ แล้วสร้างให้มันแตกต่างจาก original หรือสร้างขึ้นใหม่เอง การสร้างคอนเทนท์ใหม่ จริงๆก็ไม่ได้ใช้เวลาเยอะกว่ามากเลย และคุณอาจจะเห็นว่าผลลัพธ์ของมันไม่ได้มาอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่ามันไม่ได้ทำให้เกิดยอดขายขึ้นในทันที แต่การสร้างคอนเทนท์ให้มีวินัยและเหมาะสมจะทำให้เกิด traffic ที่ต่อเนื่อง และสามารถสร้างยอดขายได้ในระยะยาว
2. สร้าง Micro-Content
หนึ่งในปัญหาที่นักการตลาดล้วนพบเจอในทุกวันนี้ (ไม่ใช่แค่ในอีคอมเมิร์สด้วย) ก็คือภาวะข้อมูลที่ล้นเยอะเกินไป ผู้ใช้ต่างก็ติดอยู่กับการรับสารข้อมูลหรืออัพเดตต่างๆ จากแบรนด์โปรดของพวกเขา ที่ถูกแชร์จากผู้คนที่เน็ตเวิร์กของพวกเขา
ด้วยเวลาที่จำกัด ลูกค้าต่างก็ไม่อยากพยายามที่จะใช้เวลาไปกับการหาคอนเทนท์อื่นๆเพิ่มอีก อย่าได้หวังให้พวกเขานิ่งดูวิดีโอ 10 นาที หรืออ่านบทความ 5,000 คำ ในช่วงเวลาชีวิตที่เร่งรีบอย่างทุกวันนี้
นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมการทำ micro-content จึงทำให้สะดวกกว่ามาก เช่น วิดีโอ 10 วินาทีที่สามารถโพสต์ลง Instagram หรือ Facebook หรืออาจจะแปลงเป็นไฟล์ GIF ลง Twitter ก็จะทำให้เกิด engagement ได้มากกว่าเสียอีก
ถ้าทำ micro-content คุณจะได้ประโยชน์มากขึ้น ผู้ชมก็จะชอบดู ถ้าพวกเขารู้ว่ามันจะไม่ทำให้เขาเสียเวลามากไปกว่า 10-20 วินาที
3. บล็อกก็เป็นโซเชียลมีเดีย
เรามักรู้กันดีว่าโซเชียลมีเดียคือ Facebook, Twitter, Instagram, Pinterest แต่รู้ไหมว่า blogs ก็อยู่ในรูปแบบของโซเชียลมีเดียเช่นกัน! มันเป็นแพลตฟอร์มให้ได้โพสต์คอนเทนท์ และคอนเทนท์เหล่านั้นก็มีให้แชร์และคอมเมนท์ได้ เหมือนๆกับแพลตฟอร์มของโซเชียลมีเดียอื่นๆ
เวลาที่คุณทำการตลาดในธุรกิจอีคอมเมิร์ส ก็ควรรวมการสร้างบล็อกลงไปในกลยุทธ์ในแบบโซเชียลมีเดียด้วย เพราะมันสามารถสร้าง traffic กลับมาหาร้านของคุณได้อย่างมาก ถ้าทำถูกทาง
นั่นเป็นสิ่งที่ Richard Lazazzera จาก A Better Lemonade Stand ได้เรียนรู้เมื่อตอนที่เขาท้าทายตัวเองโดยการ launch ธุรกิจเสื้อยืดในเวลาเพียงแค่ 24 ชม. หลังจากสร้างร้านค้าใน Shopify แล้วลิสต์สินค้าของเขาออกมาแล้ว เขาก้ติดต่อไปยังบล็อกเกอร์คนหนึ่งเพื่อที่จะให้เขาลงสินค้าในบล็อกของเขาเพราะมันเกี่ยวเนื่องกับบทความที่เขาทำอยู่
ซึ่งผลลัพธ์ก็คือวันรุ่งขึ้นเมื่อเขาตื่นนอนขึ้นมา เขาก็พบกับ notifications มากมายจากลูกค้ารายใหม่ๆ ที่มาจากบล็อกเกอร์คนนั้นที่ได้โพสต์สินค้าให้เขาไป ซึ่งโพสต์เหล่านั้นไม่ได้แค่ส่งผลไปถึงยอดขาย แต่มันยังทำให้อีกหลายคนมีความสนใจที่จะทำงานร่วมกับ Richard ด้วย
ดังนั้นอย่าสร้างแค่คอนเทนท์ของคุณ แต่ลองหา influencer หรือ บล็อกเกอร์คนอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับสินค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของคุณ แล้วติดต่อไปร่วมงานกับเขา เพื่อให้ธุรกิจหรือสินค้าของคุณได้ไปปรากฏอยู่ในเว็บฯ หรือช่องทางโซเชียลมีเดียของพวกเขาด้วย
4. สร้างคอนเทนท์ให้มี engagement มากขึ้น
เมื่อใดก็ตามที่คุณโพสต์คอนเทนท์ลงบนสื่อโซเชียลมีเดียแล้ว มันก็ควรที่จะมีเป้าหมาย เพื่อที่จะได้คอมเมนท์ การแชร์ หรือทำให้เกิด traffic ให้กับร้านค้าของคุณ เป็นค้น ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำอย่างนั้นก็คือการสร้างคอนเทนท์อยู่เสมอ เพื่อโฟกัสให้เกิดการเพิ่ม engagement
และวิธีอื่นๆก็รวมถึง การถามคำถาม สร้าง call-to-action เพื่อให้เกิด engagement หรือสร้างประเด็นเพื่อให้เกิดการแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ หรือโต้คารมกัน คุณอาจใช้สินค้าของคุณเป็นตัวกลางอย่างที่ Ahole Gear ทำ
Doritos ก็เพิ่งใช้วิธีจากที่เราได้กล่าวมา ในการสร้างวิดีโอคลิบสั้นๆ มุ่งประเด็นไปเรื่องการโต้เถียงทางการเมืองเพื่อให้ผู้คนได้ออกความคิดเห็นและเข้าถึงพวกเขา
ยิ่งคอนเทนท์ของคุณมี engagement เยอะมากเท่าไร มันก็จะยิ่งส่งผลไปถึงอัตรา follower ที่จะเข้าหาคุณมากขึ้นเช่น การคอมเมนท์ ไลค์ แชร์คอนเทนท์ และมันก็จะนำไปสู่ลูกค้าหน้าเก่าให้กลับมาหาคุณ นึกถึงคุณอีกครั้งเช่นกัน
5. ใช้รีวิวจากโซเชียล
การรีวิวสินค้าจากลูกค้านั้นเป็นวิธีการสร้างความน่าเชื่อถือบนโซเชียลมีเดียที่ดีมาก เพื่อให้ลูกค้าใหม่ๆได้รู้ว่าเขาจะได้รับประโยชน์อะไรบ้างจากสินค้าของคุณ ถึงแม้ว่าอาจมีแอพฯที่ช่วยในเรื่องการสร้าง engagement จากรีวิวให้มากขึ้นแต่คุณก็สามารถทำเองได้จากโซเชียลมีเดีย
Facebook ก็เป็นเครื่องมือเบสิคที่ทำให้ลูกค้าของคุณได้เห็นรีวิวทันทีโดยที่ไม่ต้องเข้าไปในเว็บไซต์ของคุณอีกที เช่น Coval Vapes ที่มีการขายสินค้าออนไลน์แบบ worldwide ก็ไปได้ดีกับการรันรีวิวที่มีเรทสูงมากของพวกเขาในหน้าเฟซบุ๊กเพจของตัวเอง
ซึ่งวิธีก็คือคุณควรใช้การกระตุ้นให้ลูกค้าของคุณทิ้งรีวิวไว้ หรือทำการรีวิวสินค้าให้ด้วยเมื่อซื้อไป คุณอาจไม่ต้องขอให้พวกเขารีวิวจากเพจ แต่ลองส่ง follow-up emails ไปหาพวกเขาหลังการซื้อและสร้าง call-to-action note ไว้เพื่อขอให้พวกเขากลับมารีวิวสินค้าลงสื่อโซเชียลให้คุณบ้าง หรือในเว็บไซต์ก็ได้ เพื่อที่คุณจะได้ให้พวกเขาได้เกิดความพึงพอใจในการใช้สินค้าเสียก่อนแล้วจึงกลับมารีวิวอย่างจริงใจ และซื่อตรงให้คุณ
Credit: http://www.socialmediatoday.com/social-networks/5-practical-social-media-marketing-strategies-all-ecommerce-sellers-must-know, https://pixabay.com, www.freepik.com
Ketshopweb | เว็บสำเร็จรูปอย่างง่ายที่ใครๆก็ทำได้
เรายินดีให้คำปรึกษาการทำเว็บไซต์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ติดต่อมาที่ 094-436-2002 , email : sales@ketshopweb.com